Friday, October 4, 2013

สารพันเรื่องยาคุม

***ถาม-ตอบ เรื่อง"ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม"***

มีคนถามว่า วิธีคุมแบบไหนดีที่สุด 
คำตอบ: ไม่มีค่ะ ทุกวิธีมีข้อดีข้อเสีย การเลือกก็ต้องดูรายละเอียดของแต่ละคนเป็นรายๆไป
วันนี้จะมาพูดถึงแบบนี้กันก่อนนะ

รายละเอียดของการคุมกำเนิดวิธีอื่น ๆ  อ่านได้ตามลิงค์นี้ค่ะ

http://muay-drugstore.blogspot.com/2013/09/blog-post_26.html

====================
ยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม หรือ combined oral contraceptive pills (COCP)


ตัวยาจะประกอบด้วยอนุพันธ์ของฮอร์โมนสองชนิดคือ estrogen และ progesterone
ซึ่งเลียนแบบธรรมชาติ แต่จะไม่เหมือนซะทีเดียว ตัวยาจะช่วยยับยั้งการตกไข่
และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะกับการฝังตัวกรณีที่เกิดการปฏิสนธิขึ้น

ข้อดี :
-ช่วยให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ (โดยเป็นผลจากยา ไม่ใช่จากการตกไข่ตามธรรมชาติ)
-ลดอาการปวดและปริมาณประจำเดือนได้
-เมื่อหยุดยาสามารถตั้งครรภ์ได้ทันที
-ลดโอกาสเกิดมะเร็งรังไข่

ข้อเสีย :
-ต้องกินสม่ำเสมอ ในเวลาเดียวกันทุกวัน ถ้าลืมมีโอกาสพลาดท้องได้ง่าย
-อาจมีคลื่นไส้ในช่วงแรก
-ไม่เหมาะในผู้มีโรคหัวใจ โรคตับ โรคลิ่มเลือดอุดตัน สูบบุหรี่
-อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านมเล็กน้อย หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน

เหมาะกับใคร :
- คนที่ต้องการคุมกำเนิดระยะสั้น (ไม่กี่เดือน-สองสามปี)
- คนที่มีวินัยในการกินยา ไม่ขี้ลืม
- คนที่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มามาก หรือปวดประจำเดือน
มีเนื้องอกมดลูก หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ชอกโกแลตซีส
เพราะยาจะช่วยลดอาการ และทำให้ตัวโรคฝ่อลงได้

ราคา : หลากหลาย มีตั้งแต่ ไม่ถึงร้อย-400+ /เดือน
====================

คร่าวๆก็ประมาณนั้น มาดูคำถามที่ถามมากันดีกว่า

?21 กับ 28 เม็ดต่างกันยังไง
แบบ 21 เม็ดจะเป็นตัวยาทั้งหมด
แบบ 28 เม็ด จะเป็นตัวยาแค่ 21 ที่เหลือเป็นยาหลอก อาจจะมีวิตามินหรือธาตุเหล็กแทน
ถ้ากินแบบ 21 เม็ด ให้เว้น 7 วันก่อนเริ่มแผงใหม่ ประจำเดือนจะมาช่วง 7 วันนั้น
ถ้า 28 เม็ดก็กินต่อเนื่องไปเลย ประจำเดือนจะมาช่วงที่กินเม็ดยาหลอก

?ยาคุมมีกี่เกรด ทำไมมีหลายราคา แบบไหนกินแล้วไม่อ้วน
ยาทุกยี่ห้อทุกราคาเหมือนกันที่ฤทธิ์คุมกำเนิด
แต่ตัวที่ทำให้ราคาต่างคือผลข้างเคียงที่ต่างกัน ซึ่งเป้นผลจากการใช้ฮอร์โมนกลุ่มโปรเจสเตอโรนคนละชนิด
ชนิดที่ผลข้างเคียงเยอะ เช่น หน้ามัน สิวขึ้น บวมน้ำ ราคาจะถูกกว่า
แบบใหม่ๆที่ใช้แล้วหน้าไม่มัน สิวลด ไม่บวมน้ำ ก็จะแพงกว่า
ขนาดของเอสโตรเจนในยา ก็จะมีผลต่ออาการคลื่นไส้ เวียนหัว คัดหน้าอก และฝ้าค่ะ
ยิ่งต่ำอาการจะน้อย แต่โอกาสท้องถ้าลืมกินยาก็จะสูงกว่า
จะเลือกยี่ห้อไหน ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรใกล้บ้านท่านนะคะ

? กินแล้วคลื่นไส้ เวียนหัว
อาการคลื่นไส้อาเจียนมักจะเป็นแค่ช่วงแรกๆ
หลังใข้ไปสักพักจะดีขึ้น ให้อดทนไปก่อน แต่ถ้าเป็นไม่หาย ให้ลองปรึกษาหมอค่ะ

ที่ร้านยา เคยเจอลูกค้าทานยาแล้ว 
 (ทานยาคุมยี่ห้อที่มีฮอร์โมนต่ำสุด) มีอาการ

มึนหัวมาก และ บอกว่ามีอาการหมดสมรรถภาพทางเพศ คือ ไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับแฟนจนแฟนถามว่า เป็นอะไร กรณีอย่างนี้คงต้องใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่น

?ยาคุมสำหรับคนเพิ่งคลอด ให้นมลูก
ใช้แบบที่มีแต่โปรเจสเตอโรนจะเหมาะกว่า (คนละกลุ่มกัน) อ่านตามลิงค์นี้ได้ค่ะ

http://muay-drugstore.blogspot.com/2013/10/blog-post_2953.html

?ยาคุมกับสิว และฝ้า
การใช้ยาที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง จะทำให้เกิดฝ้าได้ คล้ายเวลาตั้งครรภ์
ส่วนสิว ก็ขึ้นกับชนิดโปรเจสเตอโรคตามที่ตอบข้างบนค่ะ
อันนี้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพิ่มเติมได้ ขอไม่ระบุชื่อยานะคะ

?ยาคุมกับโรคประจำตัว โรคตับ ไทรอยด์
เนื่องจากยาต้องถูกทำลายที่ตับ จึงไม่ควรใช้ในคนที่มีการทำงานของตับผิดปกติ (เช่นมีโรคตับแข็ง ตับอักเสบเรื้อรัง) แต่ถ้าเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบ โดยที่การทำงานของตับยังปกติ ก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยค่ะ

โรคไทรอยด์ไม่เป็นข้อห้ามในการใช้ยาค่ะ (พอดีมีคนถาม)
อย่างไรก็ตามในคนที่มีโรคประจำตัว ยาคุมอาจมีปฏิกิริยากับยาอื่นๆที่ทานได้
จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อยาอะไรกินเองเสมอค่ะ

?กินยังไง
ควรเริ่มกินในห้าวันแรกที่มีประจำเดือน กินเวลาเดิมสม่ำเสมอทุกๆวัน

?ถ้าลืมกินทำยังไง
คำแนะนำตรงนี้จะหลากหลายและค่อนข้างซับซ้อน แบบเงื่อนไขเยอะ
หมอแนะนำง่ายๆเลยนะคะ ถ้าลืมเม็ดเดียว กินทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดต่อไปตามปกติ
(เช่น ปกติกินตอนสองทุ่ม ถ้าลืมกินวันจนทร์ มานึกได้วันอังคาร ให้กินทันที แล้วสองทุ่มวันอังคารก็กินต่อตามปกติค่ะ)
**ถ้าลืมมากกว่านั้น(2เม็ดขึ้นไป) ถือว่ามีโอกาสท้องได้ เพราะไข่อาจจะตกไปแล้ว
แนะนำให้คุมวิธีอื่น(เช่นถุงยาง) ไปด้วย กินยาต่อไปก็ได้ แต่รอเมนส์มาแล้วค่อยเริ่มแผงใหม่
ถ้าเมนส์ไม่มา ให้รีบตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ

หรือถ้าคิดว่าไม่เหมาะกับยาคุม เพราะขี้ลืม ก็ไปปรึกษาหมอหาวิธีอื่นคุมดีกว่านะ
ถ้ากินไม่สม่ำเสมอ กินๆลืมๆ จะมีผลให้เลือดออกกะปริดกะปรอย และท้องไม่รู้ตัวค่ะ

ถ้ากินเพื่อหวังผลอื่นที่ไม่ใช่การคุมกำเนิด (เช่น กินเพื่อควบคุมรอบประจำเดือน ปวดประจำเดือน โดยที่ไม่มีเพศสัมพันธ์) อาจจะไม่ต้องซีเรียสมากเรื่องเวลา หรือเรื่องลืมกินค่ะ

?ถ้าท้องแล้วกินยาไปจะอันตรายมั้ย
ยาที่กินเป็นฮอร์โมนใกล้เคียงธรรมชาติ ไม่มีผลให้แท้ง และไม่พิ่มความพิการในเด็ก

?ช่วงที่เว้น 7 วันหรือกินยาหลอกจะต้องคุมวิธีอื่นไหม
ไม่จำเป็นถ้ากินยาสม่ำเสมอดีมาตลอด เพราะผลของยาจะยับยังการตกไข่ในรอบนั้นไปแล้วค่ะ

?ยาคุมกับมะเร็ง
มีข้อมุลว่าการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานานๆ (อย่างน้อย 5 ปีติดต่อกัน)
จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม *นิดหน่อย*
แต่ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งรังไข่ได้ชัดเจนค่ะ
นอกจากนี้ในคนที่มีปัญหาไข่ไม่ตกเรื้อรัง หรือโรค PCOS
ยาคุมจะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งโพรงมดลูกด้วย

ดังนั้นถ้าคิดว่ากินแล้วโอเคก็กินไปค่ะ
ไม่ต้องกังวลกับมะเร็งเต้านมมากจนเกินไป ยกเว้นในคนที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน
หรือมีญาติใกล้ชิดเป็น อาจจะต้องระวัง
และคนที่กินนานๆก็ควรฝึกตรวจเต้านมด้วยตนเอง
ถ้าอายุเกิน 40 ปี ก็ควรตรวจแมมโมแกรมทุกปีนะค
อ่านเรื่องมะเร็งเต้านมเพิ่ม>>https://www.facebook.com/photo.php?fbid=187235154788610&set=a.154912061354253.1073741883.138161163029343&type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-ash3%2F1170841_187235154788610_1173682247_n.jpg&size=328%2C275


***หลังคลอด : เมนส์จะมาเมื่อไหร่ จะคุมกำเนิดยังไงดีนะ?***


เป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยและกังวลใจ
ว่าช่วงหลังคลอดใหม่ๆ จะต้องคุมกำเนิดมั้ย คุมยังไงดี จะมีผลกระทบอะไรรึเปล่า
ถ้าไม่คุม แต่เมนส์ก็ยังไม่มา แล้วจะรู้ได้ยังไง ว่าไข่ตกรึยัง ถ้าท้องจะอันตรายมั้ย?
มาลองดูกันทีละเรื่องนะคะ

#หลังคลอดมีเซ็กส์ได้เมื่อไหร่
แนะนำว่าให้เว้นอย่างน้อยๆก็ 2 สัปดาห์ค่ะ
หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายแต่ละคน ถ้าไม่ปวดแผล
กายพร้อม ใจพร้อม คิดว่าโอเคก็ไม่ห้ามค่ะ

#การตกไข่และประจำเดือนในช่วงหลังคลอด
มีข้อมูลว่า คุณแม่หลังคลอดจะกลับมาตกไข่ได้(ก็คือท้องได้)
โดยเฉลี่ยแล้วจะเป็นช่วง 7 สัปดาห์หลังคลอดเป็นต้นไป
แต่บางคนก็อาจจะเร็วกว่านั้น คือตั้งแต่ 3 สัปดาห์
ถ้ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้โดยที่ไม่คุมกำเนิด บังเอิญไข่ตกพอดี ก็จะได้ท้องต่อเลย

คุณแม่ที่ให้นมลูกอยู่ โดยเฉพาะคนที่ให้แบบ exclusive breast feeding
คือให้นมแม่เท่านั้น ไม่มีการใช้นมผสมเลย จะมีผลของฮอร์โมนที่คุมการหลั่งนม
ช่วยยับยั้งการตกไข่ได้ หลายๆคนจึงไม่มีประจำเดือนไปอีกยาววเลยค่ะ
เราก็จะบอกได้ยาก ว่าไข่ตกเมืีอไหร่กันแน่
เนื่องจากผลตรงนี้ไม่ค่อยแน่นอน
จึงไม่ค่อยแนะนำให้ใช้วิธีนี้(การให้นมลูก)เป็นวิธีหลักในการคุมกำเนิดค่ะ

ประจำเดือนกับไข่ตกเกี่ยวกันยังไงดูตามนี้นะคะ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=189375327907926&set=a.189585081220284.1073741933.138161163029343&type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-ash3%2F1119983_189375327907926_1381732711_o.jpg&smallsrc=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-ash4%2F1002189_189375327907926_1381732711_n.jpg&size=1112%2C834

#ทำไมถึงไม่ควรท้องติดๆกัน
คิดง่ายๆก่อนเลย >> เหนื่อยไปมั้ยคะ?! ให้ร่างกายพักบ้างอะไรบ้าง เลี้ยงลูกที่เพิ่งคลอดก็แทบแย่แล้วเนอะ
แต่บางคนบอก ไหนๆก็เหนื่อย รวดเดียวไปเลยดีกว่า
ก็จะบอกตามข้อมูลค่ะว่า ท้องติดๆกันเกินไป มีข้อเสียยังไง
1) เพิ่มโอกาสคลอดก่อนกำหนดในท้องต่อมา
2) ในคุณแม่ที่ผ่าคลอด จะเพิ่มโอกาสมดลูกแตกในท้องต่อมาด้วย
(ทำไมถึงจะแตก อ่านตามนี้ค่ะ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=151082911737168&set=a.150673491778110.1073741863.138161163029343&type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-prn1%2F562500_151082911737168_1217499566_n.jpg&size=400%2C320)
จึงมีความสำคัญที่จะต้องเว้นระยะค่ะ โดยความเสี่ยงของทั้งสองภาวะนี้จะเพิ่มขึ้นชัดเจน
ถ้าการตั้งครรภ์ใหม่ห่างจากครรภ์ก่อนหน้าน้อยกว่า 18 เดือน

**สรุปคือให้ลูกอายุได้ขวบครึ่งเป็นอย่างน้อย ค่อยคิดมีคนถัดไปนะคะ**

#แล้วจะคุมยังไงดี
จริงๆเคยเขียนไปบ้างแล้วหลายตอน
ข้อดีข้อเสีย จุดเด่นของแต่ละอัน อ่านได้จากลิงค์ค่ะhttp://muay-drugstore.blogspot.com/2013/09/blog-post_26.html
คราวนี้จะโฟกัสในประเด็นที่เกี่ยวกับคุณแม่หลังคลอดนะค

โดยวิธีที่ค่อนข้างแนะนำในคณแม่หลังคลอดคือ
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มี โปรเจสเตอโรน เป็นส่วนประกอบอย่างเดียว (progesterone-only pills หรือ minipills)
- ยาฉีดคุมกำเนิดแบบทุก 3 เดือน (DMPA)
- ยาฝังคุมกำเนิด (มีหลายยี่ห้อ norplant, jadell, implanon)
กลุ่มนี้จะดีในแง่ที่จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนม จึงเหมาะในคุณแม่ให้นมลูกค่
สามารถเริ่มยากินได้ ตั้งแต่ 2 สัปดาห์หลังคลอด
ถ้าเป็นยาฉีดหรือฝัง แนะนำให้เริ่มในช่วง 6 สัปดาห์เป็นต้นไปค่ะ
(ก่อนหน้านั้นอาจจะใช้ถุงยางไปก่อนค่ะ)

ตัวเลือกอื่นๆที่ใช้กันบ่อย
- ห่วงอนามัย ใช้ได้ดีเช่นกัน ไม่มีผลต่อน้ำนม สามารถใส่ได้ตั้งแต่หลังคลอดทันที
หรือจะมาใส่ที่ 6 สัปดาห์ ก็ได้ แบบแรกดีคือใส่ง่าย แต่โอกาสหลุดจะสูงกว่า
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ก็คือแบบที่มีขายกันหลายๆยี่ห้อทั่วๆไป แบบนี้อาจมีผลทำให้น้ำนมลดลงได้
แต่ก็สามารถใช้ได้ในคุณแม่ที่ให้นมลูกจนเข้าที่เข้าทางไม่มีปัญหาแล้ว
หลัง 6 สัปดาห์เป็นต้นไปค่ะ
- ถุงยางอนามัย ก็ใช้ได้ไม่มีปัญหาค่ะ

**การคุมธรรมชาติ หรือการหลั่งนอกนั้น เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำ โอกาสพลาดสูง
เพราะจะมีอสุจิเล็ดรอดออกมากับสารหล่อลื่นของฝ่ายชาย
ดังนั้นต่อให้หลั่งนอกได้ไม่พลาด ก็ยังท้องได้นะคะ ไม่แนะนำอย่างมาก
ยกเว้นคนที่คิดว่า ถ้าท้องก็โอเคไม่ซีเรียส ก็อาจจะอนุโลมกันได้ค่ะ
(แต่คนที่เพิ่งผ่าคลอดมานี่ไม่ควรมากๆ เพราะจะเสี่ยงเยอะกว่าถ้าท้อง)

@หมอบาส

(ขอบคุณ ข้อมูล จากfacebook ของ ใกล้มิตรชิดหมอ)

No comments:

Post a Comment