Monday, February 9, 2015

ดีคอลเจนและทิฟฟี่


เวลาที่ข้าพเจ้าอยู่ร้านยา คนที่เข้ามาซื้อยา จะถามว่า “ดีคอลเจนหรือทิฟฟี่อย่างไหนดีกว่ากัน?” ข้าพเจ้าสังเกตว่า ช่วงนี้ทีวีมีโฆษณายาสองตัวนี้ จึงมีคนมาซื้อที่ร้านบ่อย มีบางคนบอกว่า "ตัวเขาเองกินครั้งละ 4 เม็ดไม่เห็นเป็นอะไรเลย ทำไมไปซื้อร้านสะดวกซื้อ พนักงานร้านบอกว่าขายไม่ได้เพราะเป็นยาอันตรายข้าพเจ้าก็แนะนำตามหลักวิชาการไป และหาข้อมูลเพิ่มเติมมาเขียนบทความนี้
-------------------------------------------------------------------------
Decolgen prin เป็นชื่อการค้าของบริษัทหนึ่ง ส่วนTiffey dey เป็นชื่อการค้าของอีกบริษัทหนึ่ง ยาทั้งสองชนิดนี้มีส่วนประกอบและปริมาณยาที่เหมือนกันทุกอย่าง ดังนี้
1.     Paracetamol 500 mg มีคุณสมบัติ แก้ปวด ลดไข้ แก้ปวดหัว
2.     Phenylephrine HCL 10 mg มีคุณสมบัติ ช่วยลดอาการคัดจมูก (nasal decongestant)
3.     Chlorpheniramine Maleate 2 mg  มีคุณสมบัติ ลดน้ำมูก ผลข้างเคียงของยาตัวนี้ คือ ทานแล้วง่วง
ดังนั้น จึงทำให้ทั้งยาดีคอลเจนและทิฟฟี่ มีข้อควรระวัง คือ อาจทำให้ง่วง แต่ว่า มีบางคน ทานแล้วง่วงมาก บางคนทานแล้วง่วงน้อย  บางคนทานแล้วไม่ง่วงเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละคนที่มีต่อยา Chlorpheniramine ซึ่งปกติ ขนาดยา หรือ doseของ Chlorpheniramine ในผู้ใหญ่คือ 4 mg ต่อเม็ด แต่ในสูตรดีคอลเจนและ ทิฟฟี่จะมีแค่ 2 mg ลดลงไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะลดผลข้างเคียงคือ ความง่วง ลงได้มาก

ขนาดยา (Dose) ของดีคอลเจน-พริน และทิฟฟี่-เดย์ คือ  เด็ก อายุ 6-12 ขวบ ทานครั้งละ 1 เม็ด ทุก4-6 ชั่วโมง
                     ผู้ใหญ่ ทานครั้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
ยาส่วนใหญ่เมื่อทานเข้าไปแล้วจะใช้เวลา 15-30 นาที จะเริ่มออกฤทธิ์ และใช้เวลาออกฤทธิ์ในร่างกาย 4-6 ชั่วโมง จึงหมดฤทธิ์ เพราะถูกร่างกายค่อย ๆกำจัดออกไปทางปัสสาวะบ้าง ทางเหงื่อบ้าง อุจจาระบ้าง ฯลฯ ดังนั้น เมื่อยาหมดฤทธิ์แล้ว อาการโรคก็อาจกลับเป็นอีก ก็ต้องกินยาซ้ำทุก 4-6 ชั่วโมง เช่น บางคนทานยาลดไข้ไป 4 ชั่วโมงระหว่างนั้นไม่มีไข้  แต่พอครบ 4 ชั่วโมง ยาหมดฤทธิ์ กลับมามีไข้อีก จึงต้องกินยาซ้ำ

ดังนั้น บางคนบอกว่าทานยาดีคอลเจนหรือทิฟฟี่ครั้งละ 4 เม็ด จึงไม่ถูกหลักวิชา เพราะ ยาทั้ง 4 เม็ดจะหมดฤทธิ์พร้อมกัน ถ้ายังมีอาการเป็นอีก ต้องกินยาซ้ำอีกทุก 4-6 ชั่วโมง จึงควรกินแค่ 2 เม็ดก็พอสำหรับผู้ใหญ่  เพราะยาอีก 2 เม็ดเป็นยาส่วนเกินที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย เกิดผลเสียคือ ร่างกายต้องทำงานหนักในการกำจัดตัวยาออก และ อาจเกิดผลข้างเคียงของยาเพิ่มขึ้นได้ เช่น อาการง่วงมากขึ้น ฯลฯ

เวลาที่ข้าพเจ้าอยู่ร้านยา บางคนที่เข้ามาซื้อยา จะบอกว่า เคยกินทั้งดีคอลเจนและทิฟฟี่ รู้สึกว่าทิฟฟี่กินแล้วง่วงมากกว่าดีคอลเจน" บางคนบอกว่า "รู้สึกว่ายาทิฟฟี่แรงกว่าดีคอลเจนในฐานะเภสัชกร ขอวิเคราะห์กระบวนการผลิตยาของทั้งสองบริษัท ซึ่งอาจส่งผลต่อปริมาณตัวยาได้ ขอเล่าคร่าว ๆ คือ

โดยปกติ เวลาผลิตยา เขาจะผสมตัวยาครั้งละหลายกิโลกรัมรวมกัน แล้วมาตอกเป็นเม็ดยาได้ทีละ พัน ๆ เม็ด จากนั้นก็ชั่งน้ำหนักเม็ดยาหาค่าเฉลี่ยต่อเม็ดให้ได้น้ำหนักที่กำหนด ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนได้ บวกลบไม่เกิน 10 %
สมมติ ผู้ผลิตบริษัท ก. มีความคลาดเคลื่อนของปริมาณยาไม่เกิน 5% ยา chlorpheniramine จะมีปริมาณอยู่ที่ 1.9 mg-2.1 mg ต่อเม็ด
บริษัท ข. คลาดเคลื่อนไม่เกิน 10% จะมียา chlorpheniramine 1.8 mg -2.2 mg ต่อเม็ด
ซึ่งมาตรฐานการผลิตยากำหนดความคลาดเคลื่อนไม่เกินบวกลบ 10 % จึงถือว่าทั้ง 2 บริษัทได้มาตรฐานตามกำหนด เมื่อดูปริมาณยาแล้วจะแตกต่างกันเล็กน้อยเป็นจุดทศนิยม

ดังนั้น ผู้ผลิตแต่ละรายจะใช้เครื่องมือการผลิตและการวัดค่าได้ละเอียดมากน้อยแตกต่างกัน ก็อาจส่งผลให้ปริมาณยา,ฤทธิ์การรักษาและผลข้างเคียงแตกต่างกันได้บ้างเล็กน้อย

(หมายเหตุ โดยส่วนใหญ่ โรงงานผลิตยาในประเทศไทยได้มาตรฐานการผลิต GMP ทุกโรงงานอยู่แล้ว ผู้บริโภคจึงสามารถเชื่อมั่นกับผลิตภัณฑ์ยาที่ผลิตในประเทศว่าได้มาตรฐานอย่างแน่นอน)

ส่วนการที่จัดให้ยากลุ่มนี้เป็นยาอันตราย ขายได้เฉพาะร้านขายยาแผนปัจจุบัน ก็เพราะตามกฏหมายกำหนดไว้ดังนี้

พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม จำแนกยาเป็น 3 กลุ่ม คือ ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ
และยาสามัญประจำบ้าน ยาแต่ละกลุ่มจัดขึ้นตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขซึ่งจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ตามเหตุผลและความจำเป็น เพราะยาแต่ละกลุ่มสามารถกระจายถึงมือผู้บริโภคต่างกัน กล่าวคือ
1.ยาสามัญประจำบ้าน เป็นยาที่ได้รับการพิจารณาแล้วว่าปลอดภัย โอกาสเป็นอันตรายต่อสุขภาพมีน้อย ให้วางจำหน่ายได้โดยทั่วไป และผู้ซื้อสามารถตัดสินใจซื้อด้วยตนเองตามอาการเจ็บป่วย 
2. ยาอันตราย เป็นยาที่ต้องขายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันภายใต้การควบคุมของเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ได้แก่ ดีคอลเจน-พริน และทิฟฟี่-เดย์ ดังกล่าว
3. ยาควบคุมพิเศษ เป็นยาที่จ่ายได้เมื่อมีการนำใบสั่งยามาซื้อยา กลุ่มนี้เป็นยาที่มีความเป็นพิษภัยสูงหรืออาจก่ออันตรายต่อสุขภาพได้ง่าย จึงเป็นยาที่ถูกจำกัดการใช้

ส่วนข้อควรระวังอื่น ๆ ในการใช้ยาดีคอลเจนและทิฟฟี่  อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://pharmacy-muay.blogspot.com/2009/11/blog-post_05.html