วันนี้ข้าพเจ้าขอเป็น C.S.I ให้กับร้านยาตัวเองหน่อย
(หมู่นี้ดูหนังซีรีส์ C.S.I.มากไปหน่อย) C.S.I ย่อมาจาก Crime scene investigation แปลว่า หน่วยพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุ
เริ่มจากข่าว เมื่อ 17 ม.ค. 2558 มีเหตุการณ์รีดไถเงินและตีคนตายที่ฝั่งธน
ตามข่าวนี้
จับโจรผัวเมียคู่ขารีดไถเงิน ใช้เหล็กตีเหยื่อดับย่านวงเวียน 22
จับกุมสองโจรคู่ขาก่อเหตุร่วมกันฆ่าผู้อื่นเสียชีวิตย่านวงเวียน
22 หลังเข้ารีดไถเงินผู้เสียหายแต่ขัดขืนจึงใช้ท่อนเหล็กฟาดศีรษะก่อนหลบหนีไป
อ้างโมโหที่ผู้ตายแซวแฟนสาว ประกอบกับมีอาการมึนเมาจึงคว้าท่อนเหล็กกระหน่ำตีผู้ตายอ่านรายละเอียดได้ที่นี่http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000006832
ข้าพเจ้าแปลกใจที่ชายที่เป็นคนร้ายมีหน้าตาที่จัดว่าดี มากับแฟนสาวรีดไถเงินคุณลุงแล้วตีคุณลุงจนตาย ซึ่งเหตุการณ์วิธีรีดไถเงินคล้ายคลึงกับที่เกิดที่ร้านยาข้าพเจ้า เพียงแต่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือตาย
ข้าพเจ้าแปลกใจที่ชายที่เป็นคนร้ายมีหน้าตาที่จัดว่าดี มากับแฟนสาวรีดไถเงินคุณลุงแล้วตีคุณลุงจนตาย ซึ่งเหตุการณ์วิธีรีดไถเงินคล้ายคลึงกับที่เกิดที่ร้านยาข้าพเจ้า เพียงแต่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือตาย
ขอวกเข้ามาที่ร้านยาของข้าพเจ้าที่เป็นสถานที่เกิดเหตุ
เหตุการณ์ที่ 1
มีเหยื่อ 3 ราย
รายที่ 1 คือ ข้าพเจ้าเอง
มีเหยื่อ 3 ราย
รายที่ 1 คือ ข้าพเจ้าเอง
เมื่อปี 2555 วันหนึ่งตอนกลางวัน หน้าร้านยาของข้าพเจ้าไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน มีชายหนุ่มคนหนึ่งหน้าตาจัดว่าดี ผมเผ้าเรียบร้อย อายุประมาณ 25-26 ปี โผล่มาบอกว่า
ขอยืมเงิน 200 บาท แล้วจะเอามาใช้คืนให้ บอกกำลังเรียกรถTaxiจะพาแฟนไปคลอดลูกที่โรงพยาบาล และบอกว่า แฟนเรียนพาณิชย์พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้แหละ
(ร้านยาของข้าพเจ้าตั้งอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้าน) ตอนนั้น ข้าพเจ้าก็ให้เงินไปให้จบ
ๆ เรื่อง
รายที่ 2 ต่อมา ข้าพเจ้าก็รู้มาว่า หนุ่มคนนี้เป็นคนในหมู่บ้าน และเคยไปขอเงิน 200 บาทจากคุณครูที่เป็นผู้หญิงนั่งทำงานลำพังในบ้านคนเดียว
รายที่3 ในช่วงวันที่ใกล้เคียงกัน ก็ไปขอเงินกับคุณป้าคนหนึ่งที่กำลังรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านคนเดียว
แสดงว่า มันต้องรู้ความเคลื่อนไหวของแต่ละบ้าน และทุกคนยอมให้เงินมัน มันก็เลยทำบ่อย แต่คุณป้าคนที่รดน้ำต้นไม้จำได้ว่า แม่ของหนุ่มคนนี้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านด้วย ตอนหลังก็ไม่ได้ยินเรื่องหนุ่มคนนี้ไปขอเงินใครอีก (สันนิษฐานว่า คงจะมีคนไปเตือนแม่เขา)
รายที่ 2 ต่อมา ข้าพเจ้าก็รู้มาว่า หนุ่มคนนี้เป็นคนในหมู่บ้าน และเคยไปขอเงิน 200 บาทจากคุณครูที่เป็นผู้หญิงนั่งทำงานลำพังในบ้านคนเดียว
รายที่3 ในช่วงวันที่ใกล้เคียงกัน ก็ไปขอเงินกับคุณป้าคนหนึ่งที่กำลังรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านคนเดียว
แสดงว่า มันต้องรู้ความเคลื่อนไหวของแต่ละบ้าน และทุกคนยอมให้เงินมัน มันก็เลยทำบ่อย แต่คุณป้าคนที่รดน้ำต้นไม้จำได้ว่า แม่ของหนุ่มคนนี้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านด้วย ตอนหลังก็ไม่ได้ยินเรื่องหนุ่มคนนี้ไปขอเงินใครอีก (สันนิษฐานว่า คงจะมีคนไปเตือนแม่เขา)
เหตุการณ์ที่ 2 เกิดที่ร้านยาข้าพเจ้า(อีกแล้ว)
ปีต่อมา 2556 วันหนึ่งตอนเกือบสองทุ่ม มีหนุ่มท้วมนิด ๆ ผิวขาว อายุประมาณ 30 ต้น ๆ ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าร้าน บอกขอเงิน 200 บาท อ้างว่าแฟนมาซื้อยาคุมกำเนิดร้านนี้ประจำ
ข้าพเจ้าบอกว่าไม่มี และเตรียมหลบเข้าหลังร้าน หนุ่มคนนั้นทำหน้าไม่พอใจ แล้วขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป
โชคดีที่ข้าพเจ้าปิดประตูชั้นในที่เป็นซี่ลูกกรงไว้ก่อนแล้ว
ต่อมา ข้าพเจ้า เจอคนหน้าตาคล้าย ๆ
กันขี่มอเตอร์ไซค์มาซื้อก๋วยเตี๋ยวแถวร้านยา
จึงรู้ว่า เขาเป็นคนย่านนี้เอง
จากสองเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้าเจอ ก็คือ ผู้ขอเงินมีการลงมือคล้าย
ๆ กัน คือหน้าตาดี อ้างเรื่องแฟนสาว ขอเงินประมาณ 100-200 บาท ถ้าใครควักเงินให้ง่าย ๆ มันจะขอเพิ่ม และเลือกเหยื่อเป็นหญิงอยู่ตามลำพัง โดยผู้ต้องสงสัยจะเป็นคนในย่านเดียวกับเหยื่อ
และเมื่อนำเหตุการณ์2 เหตุการณ์จากร้านยาเปรียบเทียบกับข่าวด้านบนแล้วไม่ต่างกัน