กรมการแพทย์ไทยฯ เผย ‘ฮู’ หนุนกิน ‘ฟ้าทลายโจร’
รักษาหวัด ไข้หวัดใหญ่ ไซนัสอักเสบ แนะกินครั้งละ 1.5 -3 กรัม วันละ 4 ครั้ง
หลังอาหารและก่อนนอน แต่ห้ามใช้กับผู้มีความดันต่ำ หากทำยาต้ม
ใช้ใบและกิ่งสดต้มกับน้ำ 10-15 นาที ดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม
2556 นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ช่วงอากาศเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาว
หากร่างกายปรับสภาพไม่ทันอาจเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ฯลฯ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ อ่อนเพลีย น้ำมูกไหล มีเสมหะ ไอ เจ็บคอ
แสบคอ จึงแนะนำทางเลือกในการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย และอาหารรสร้อน ซึ่งสมุนไพรที่ใช้ได้ผลดี
คือ ฟ้าทลายโจร
นพ.ธวัชชัยกล่าวอีกว่า มีการใช้ยาฟ้าทลายโจรช่วยบรรเทาอาการหวัดและเสริมภูมิต้านทานดีกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะมานานหลายร้อยปี
จนได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่าเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรรักษาโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่
ไซนัสอักเสบที่ได้ผลดี และขายดีที่สุดในประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะสแกนดิเนเวีย สหรัฐอเมริกา
และ ออสเตรเลีย ในคนที่เป็นหวัดบ่อย ๆ มีกลไกการออกฤทธิ์ที่ได้ผลดีต่อโรคหวัดมาก โดยมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส
เพิ่มภูมิต้านทาน ลดไข้ และลดการอักเสบ ช่วยให้จมูกโล่ง และลดอาการเจ็บคอ ระคายคอ
“การกินฟ้าทลายโจรตามระบุในบัญชียาหลักแห่งชาติพ.ศ.
2549 กำหนดขนาดใช้ของฟ้าทะลายโจร คือ ถ้ามีอาการหวัดเจ็บคอ กินครั้งละ 1.5-3 กรัม
วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน แต่ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่ความดันต่ำ นอกจากการบริโภคฟ้าทลายโจร
ตามที่แนะนำแล้ว ยังมีวิธีการใช้ฟ้าทลายโจรในครัวเรือนแบบภูมิปัญญาพื้นบ้านในรูปแบบของยาต้ม
โดยใช้ใบและกิ่งสดต้มกับน้ำ 10-15 นาที
ดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง
นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า
ปัจจุบันมีจำหน่ายตามร้านยาไทย และร้านสะดวกซื้อทั่วไป อย่างไรก็ตาม
จะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ควรรักษาร่างกายให้อบอุ่น ดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ
และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง คือ การดื่มน้ำเย็น งดกินอาหารที่มีรสหวานมัน เพราะทำให้เสมหะมากและทำให้ไอมากขึ้น หากดูแลรักษาตนเองตามวิธีข้างต้น
อาการจะดีขึ้นในเวลาเพียง 1-2 วัน หากใช้ฟ้าทลายโจรติดต่อกัน 2-3 วัน แล้วไม่หาย
หรืออาการป่วยรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้ และไปพบแพทย์ทันที